ติดแบล็คลิสต์ ติดบูโร จำนองที่ดินได้ไหม ต้องทำยังไงบ้าง

สำหรับใครที่ลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ นั้น นอกจากเรื่องของความคุ้มค่าในทรัพย์สิน และผลตอบแทนที่ได้แล้ว “ประวัติ” ของตัวผู้ซื้อ ผู้ขาย หรือตัวผู้จำนอง รับจำนองเองนั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน และหากเรามีเหตุจำเป็น ต้องเงินก้อนด่วน แล้วจำเป็นต้องทำการจำนองที่ดินแล้ว การที่เรามีประวัติอย่างการติดแบล็คลิสต์ ติดบูโร แล้วจะจำนองที่ดินได้ไหม วันนี้ Brickpaths จะพาทุกคนไปทำความรู้จักพร้อม ๆ กัน ว่าเครดิตบูโร แบล็คลิสต์คืออะไร และถ้าเราติดแบล็คลิสต์ ติดบูโร จำนองที่ดินได้ไหม ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูพร้อม ๆ กันเลย

เครดิตบูโร คืออะไร

ก่อนจะไปดูกันว่าติดแบล็คลิสต์ ติดบูโร จำนองที่ดินได้ไหม เราต้องมาทำความรู้จักกันก่อน ว่าเครดิตบูโร และการติดแบล็คลิตส์นั้น คืออะไรกันแน่ สำหรับเครดิตบูโรนั้น คือข้อมูลประวัติการชำระหนี้ของเรา ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกประเมินจากพฤติกรรมการใช้จ่าย ซื้อขาย และการผ่อนชำระ กู้ยืมต่าง ๆ เพื่อนำมาบ่งบอกถึงสถานะทางการเงินของเราได้ โดยข้อมูลทั้งหมดนั้นจะถูกรวบรวมจากสถาบันการเงินต่าง ๆ โดยบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ National Credit Bureau ที่เป็นที่มาของชื่อ “เครดิตบูโร” นั่นเอง

และส่วนที่สำคัญของเครดิตบูโรนั้น ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการชำระหนี้ของเรา ถ้าเราสามารถชำระหนี้ต่าง ๆ ของเราได้ครับถ้วน ก็จะไม่มีปัญหาอะไรมาก แต่ถ้าเกิดว่าเรามีปัญหา ผิดนัดชำระหนี้บ่อยครั้ง หรือมีการหนีหนี้เกินกำหนด จะทำให้ข้อมูลเครดิตบูโรของเรามีประวัติที่เสีย หรือที่เรียกว่า “ติดเครดิตบูโร” หรือสั้น ๆ ว่า “ติดบูโร” ได้ และเวลาที่เราขอสินเชื่อกับธนาคาร หรือสถาบันการเงินการเงินต่าง ๆ หากมีการเช็คประวัติเครดิต แล้วพบว่าเราผิดชำระหนี้บ่อย ๆ หรือติดบูโร จะจํานองที่ดินได้ไหม ทางธนาคารก็อาจจะพิจารณาว่าตัวผู้ขอสินเชื่อนั้นอาจผิดชำระหนี้กับธนาคารก็ได้เช่นกัน ก็จะทำให้การอนุมัติสินเชื่อของเรานั้นทำได้ยากขึ้นด้วย

ติดแบล็คลิสต์ คืออะไร

บัญชีดำ หรือที่เรียกว่า แบล็คลิสต์ (Blacklist) คือรายชื่อของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ได้รับการปฏิเสธจากกลุ่มบางกลุ่ม ซึ่งในทางการเงินการลงทุนต่าง ๆ นั้นมักจะใช้กับบุคคลที่มีประวัติเสียทางการเงิน เช่นติดเครดิตบูโร สถาบันการเงินต่าง ๆ จะทำการขึ้นแบล็คลิสต์ชื่อบุคคลนั้น ๆ หรือที่เรียกกันว่า “ติดแบล็คลิสต์” ทำให้ไม่สามารถทำการขอสินเชื่อ หรือทำธุรกรรมใด ๆ กับธนาคารและสถาบันการเงินได้อีก

เครดิตบูโร กับแบล็คลิสต์ ต่างกันอย่างไร

สำหรับความแตกต่างระหว่างเครดิตบูโร กับแบล็คลิสต์นั้น คือเรื่องของผลกระทบ เพราะการติดบูโรนั้นจะถูกใช้ในการพิจารณาในการขอสินเชื่อเท่านั้น ซึ่งทางสถาบันการเงินจะอนุมัติหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละฝั่ง ทำให้ผู้กู้ ผู้จำนองยังมีโอกาสในการขอสินเชื่อต่าง ๆ ได้อยู่ แต่กับการติดแบล็คลิสต์นั้น จะทำให้ธนาคาร สถาบันการเงินต่าง ๆ จะไม่อนุมัติสินเชื่อให้ จนกว่าผู้กู้จะหลุดออกจากรายชื่อแบล็คลิสต์

ติดแบล็คลิสต์ ติดบูโร จำนองที่ดินได้ไหม

ถ้าถามว่า ติดแบล็คลิสต์ ติดบูโร จำนองที่ดินได้ไหม ก็ต้องตอบว่า “ได้ในบางกรณี” ถ้าหากเรานำที่ดิน บ้าน หรือทรัพย์สินไปจำนองกับธนาคาร ส่วนใหญ่มักจะตรวจสอบประวัติการเงินของเราอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นต่อให้ไม่มีชื่อติดแบล็คลิสต์ แต่เรามีปัญหาติดเครดิตบูโร ก็จะทำให้การอนุมัติสินเชื่อไม่ผ่านอยู่ดี

แต่ถ้าเราเปลี่ยนไปจำนองกับบุคคลทั่วไป หรือบริษัทเอกชนต่าง ๆ ที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า ก็อาจจะทำให้การอนุมัติจำนองของเราง่ายขึ้นด้วย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ว่าทางฝั่งผู้รับจำนองนั้น จะทำการเช็คประวัติ ข้อมูลการเงินของเราละเอียดขนาดไหน

ติดแบล็คลิสต์ ติดบูโร แก้ไขก่อนจำนองที่ดินได้ไหม

หลังจากที่รู้แล้วว่า ติดแบล็คลิสต์ ติดบูโร จำนองที่ดินได้ไหม ถ้าเกิดว่าเราต้องการที่จะจำนองกับสถาบันการเงินต่าง ๆ และต้องการที่จะหลุดจากแบล็คลิสต์ เครดิตบูโรต่าง ๆ แล้วจะทำยังไงได้บ้าง โดยปกติแล้วหากติดเครดิตบูโร แล้วเราทำการชำระหนี้ จัดการให้เรียบร้อยแล้ว รายงานข้อมูลเครดิตของเราก็จะปรับสถานะเป็น “ปกติ” ในรอบเดือนถัดไป แต่ถึงแม้ว่าการเงินจะกลับสู่สภาพปกติ แต่สถาบันการเงินส่วนใหญ่ ก็ยังเช็คประวัติย้อนหลังตั้งแต่ 6 - 18 เดือนอยู่ เพราะงั้นก็อาจจะต้องระวังเรื่องระยะเวลา และการชำระหนี้ให้ดี ๆ

ส่วนรายชื่อแบล็คลิสต์นั้น ถ้าเราทำการชำระหนี้ จัดการให้เรียบร้อยแล้ว ข้อมูลแบล็คลิตส์ของเราก็จะยังเก็บอยู่ในระบบนานถึง 3 ปี หรือ 36 เดือนหลังจากปิดหนี้ในระบบได้แล้ว ข้อมูลแบล็คลิสต์จึงจะถูกลบจากระบบ หากผู้กู้ ผู้จำนองต้องการที่จะทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินอื่น ๆ ก็ควรที่จะรอให้ถึงเวลาที่ข้อมูลแบล็คลิสต์ถูกลบก่อน จึงจะสามารถทำธุรกรรมกันต่อได้

และจากทั้งหมดนี้ หลาย ๆ คนก็น่าจะได้คำตอบแล้ว ถ้าติดแบล็คลิสต์ ติดบูโร จำนองที่ดินได้ไหม ซึ่งถึงแม้ว่าจะทำได้ในบางกรณี แต่วิธีการที่ดีที่สุดนั้น คือการที่เราสามารถจัดการหนี้สินของเราได้อย่างครบถ้วน จนไม่มีภาระหนี้ให้ติดแบล็คลิสต์ ติดเครดิตบูโรต่างหาก ถึงจะดีที่สุด และสุดท้ายนี้ ก็ต้องของเตือนอีกครั้งว่า ทุกการลงทุน ไม่ว่าจะขายฝาก จำนอง กู้ยืมต่าง ๆ นั้นมีความเสี่ยง ผู้ที่สนใจ ควรศึกษาข้อมูลให้ดีทุกครั้งก่อนทำการลงทุนด้วย ส่วนบทความหน้า จะมีเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง รอติดตามอ่านกันได้เลย